โรคของนักวิ่ง

วิ่งมากไปก็ไม่ดี ภัยเงียบของคนชอบวิ่งเกินไป

การวิ่งเป็นการออกกลังกายที่สร้างความแข็งแรงของร่างกายได้เป็นอย่างดี และเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมานาน คนส่วนใหญ่ชื่นชอบการออกกำลังกายโดยวิธีนี้ ทั้งในกลุ่มของวัยรุ่น วัยทำงาน หรือผู้สูงอายุเองหลงรักการวิ่ง อาจเพราะเป็นการออกกำลังกายที่สะดวก ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมาก แค่มีรองเท้าคู่ใจหนึ่งคู่ก็สามารถออกกำลังกายได้อย่างมีความสุขแล้ว แต่คุณรู้หรือไม่? สำหรับคนที่หลงไหลในการออกกำลังกายมาก ๆ โดยเฉพาะนักวิ่ง มีภัยเงียบที่ซ่อนตัวอยู่ และเชื่อว่าหลาย ๆ คนเจอกับอาการนี้

Shin Splints อาการบาดเจ็บที่ต้องระวัง

ในกลุ่มคนที่รักการวิ่งและชอบออกกำลังกายโดยการออกไปวิ่งมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกไปวิ่งตามสวนสาธารณะ หรือวิ่งบนลู่วิ่งในยิม อย่างน้อย ๆ วันหนึ่งวันต้องวิ่งให้ได้ 30 นาทีขึ้นไป หากทำอย่างนี้ทุกวันเป็นเวลาหลายเดือน แน่นอนว่าทุกคนออกกำลังกายก็ต้องการสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการวิ่งทุกวันนั้นให้สิ่งที่ตรงกันข้ามกับความแข็งแรงนั่นคือความอ่อนแอ

หากคุณลองเริ่มสังเกตุตัวเอง ปัญหาที่ตามมาจากการวิ่งมาก ๆ ก็คือมีอาการปวดบริเวณหน้าแข้งของขาทั้งสองข้างเรื้อรัง ไม่ว่าจะหยุดวิ่งนานแค่ไหนอาการปวดนี้ก็ยังคงอยู่ และมันจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นถ้าหากคุณยังคงออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ โรคนี้เรียกว่า “Shin splints syndrome” เป็นอาการอักเสบของกล้ามเนื้อเอ็น และเยื่อหุ้มกระดูก จากการถูกกระทบ หรือการออกกำลังกายซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ๆ

นักวิ่ง นักกีฬา หรือแม้แต่ผู้ที่ชอบการออกกำลังกายจะมีอาการอย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้น แต่จะพบมากในหมู่นักวิ่งเสียมากกว่า สิ่งแรกเลยเมื่อพบอาการปวดหน้าแข้งเรื้อรังทำอย่างไรก็ไม่หายสักที ให้หยุดออกกำลังกายก่อนและไปพบแพทย์ เพื่อตรวจอาการว่าคุณมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้หรือไม่

การรักษาอาการปวด

การเยียวยาอาการปวดหน้าแข้งเรื้อรัง ก็จะมีตั้งแต่การทานยาเพื่อบรรเทาอาการปวด การทำกายภาพบำบัด การฝังเข็มเพื่อให้เลือดเดินได้สะดวก จนถึงการเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกายหรือเปลี่ยนประเภทของกีฬา และจากการรักษาอาการดังกล่าวในหลาย ๆ เคส วิธีที่ได้ผลมากที่สุดก็คือ หยุดวิ่ง!!! แล้วเปลี่ยนไปเล่นกีฬาประเภทอื่นที่จะไม่ทำให้ร่างกายในส่วนของบริเวณหน้าแข้งถูกกระทบกระเทือนซ้ำ กีฬาที่แพทย์แนะนำเลยก็คือ การปั่นจักรยานและการว่ายน้ำ

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่ดี แต่การออกกำลังกายมากไปบางทีมันก็ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ดีเสมอไป สิ่งที่สำคัญคือความพอดีของการออกกำลังกายต่างหากที่จะเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย และจะทำให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเราทำมันอย่างพอดิบพอดี ไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป