สุขภาพ

ชุดออกกำลังกายแบบไหนที่เหมาะกับกิจกรรมของคุณเมื่อเข้าฟิตเนส

หากจะกล่าวถึงการเข้าฟิตเนส นอกจากเรื่องการเตรียมความพร้อมของร่างกายแล้ว ชุดออกกำลังกายก็นับว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเช่นกัน เพราะชุดที่เหมาะสมกับการทำกิจกรรมนั้น ๆ เมื่อคุณอยู่ในฟิตเนส จะช่วยให้คุณมีความคล่องตัวในการออกกำลังกายมากขึ้น ในวันนี้ทางผู้เขียนจึงได้แบ่งชุดออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้คุณได้รู้ไว้ และหามาใช้งานให้เหมาะสมกับรูปแบบกิจกรรมที่คุณจะทำนั่นเอง

1. ชุดออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นวิ่ง

                เมื่อคุณวิ่งสิ่งที่รู้สึกได้คือ เริ่มร้อน และมีเหงื่อที่ระบายออกมาตามผิวหนัง ชุดที่เหมาะสมสำหรับออกกำลังกายเมื่อคุณวิ่งจึงควรเป็นชุดที่มีการระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี เนื้อผ้าก็ควรที่จะต้องเป็นผ้าที่แห้งไว ไม่อมเหงื่อ ใส่แล้วรู้สึกสบายตัว ไม่หนักหรือชุ่มไปด้วยเหงื่อ และหากคุณเป็นผู้หญิง อีกหนึ่งสิ่งที่คุณจะขาดไปไม่ได้ คือ สปอร์ตบรา บางคนอาจถามว่าใส่ไปทำไม เมื่อผู้หญิงอาจจะต้องใส่ชุดชั้นในอยู่แล้ว แต่คุณรู้ไหม ว่าสปอร์ตบราที่ดีจะช่วย support หน้าอกของคุณยามที่คุณเคลื่อนไหวร่างกาย และยังทนต่อแรงกระแทกต่าง ๆ อีกด้วย การเลือกสปอร์ตบราก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน คุณควรจะเลือกตัวที่ใส่กระชับ และเป็นผ้าที่ใส่แล้วสบายตัว

2. ชุดออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเข้าคลาส และเน้นเวทเทรนนิ่ง

เมื่อคุณเข้าไปเล่นคลาสต่าง ๆ ในฟิตเนส อาจกล่าวได้ว่าชุดออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคุณ โดยหลัก ๆ แล้วจะมีอยู่สองแบบ แบบแรก คือ คลาสจำพวก Body Combat, Boxing หรือคลาสที่ต้องมีการใช้แรงค่อนข้างเยอะและมีแรงกระแทกค่อนข้างสูง ชุดที่เหมาะสมจึงต้องเป็นชุดที่มีความกระชับ เพื่อที่จะทำให้คุณมีการเคลื่อนไหวคล่องแคล่วและคล่องตัวมากขึ้น และเนื้อผ้ายังต้องบางเบา ระบายเหงื่อได้เป็นอย่างดี และควรเลือกสปอร์ตบราที่เป็น High Impact ที่มีความยืดหยุ่นได้ดี และคล่องตัว ยามคุณออกกำลังกาย

ส่วนผู้ที่ชื่นชอบเล่นเวทเทรนนิ่ง ตรงส่วนนี้ ไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไรมาก คุณสามารถใส่ชุดทั่วไปได้ เพียงแต่ควรดูชุดที่กระชับ และเข้ากับรูปร่างของคุณเป็นพอ ส่วนสปอร์ตบรา ก็เน้นแบบ Medium Impact ที่เน้นเพิ่มความกระชับและรับต่อแรงกระแทกได้

3. ชุดออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเล่น Yoga / Pilates

หากคุณเน้นเข้าคลาสจำพวกโยคะ หรือพิลาทิส แล้วละก็ จะต้องเลือกชุดที่กระชับ พอดีกับตัวคุณ และมีความยืดหยุ่นมาก ๆ เพื่อที่จะช่วยให้เวลาคุณเคลื่อนไหวเมื่อเล่นท่าต่าง ๆ แล้ว เป็นไปได้อย่างคล่องตัว และทำได้อย่างเต็มที่ เนื้อผ้าของชุดที่เหมาะสมกับการเล่นโยคะ ไม่ว่าคุณจะชอบชุดแขนกุด สายเดี่ยว หรือเพียงแค่สปอร์ตบราก็ตาม สิ่งหนึ่งที่จะต้องมี และจำเป็นมากคือ เนื้อผ้าของชุดที่คุณเลือกจะต้องซับเหงื่อได้ดี

จะเห็นได้ว่า หากคุณเข้าใจหลักการในการเลือกชุดออกกำลังกายที่เหมาะสมกับกิจกรรมต่าง ๆ จะทำให้คุณรู้สึกสนุกสนาน สบายตัว และมั่นใจในการออกกำลังกายมากขึ้น  นอกจากนั้นชุดที่ดีและเหมาะสมยังช่วยกระชับสัดส่วน ให้คุณเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วอีกด้วย

เมื่อรักที่จะเข้าฟิตเนส รองเท้าสำหรับการออกกำลังกายก็สำคัญไม่น้อย

คุณรู้หรือไม่? ว่าการจะมองหารองเท้าผ้าใบดี ๆ สักคู่นั้น ควรพิจารณาจากอะไรบ้าง? แท้จริงแล้วการซื้อรองเท้ากีฬาไว้สวมใส่สักคู่นั้น ไม่มีกฎตายตัวอะไรมากมายนักหรอก ซึ่งนอกเหนือจากความชอบของคุณที่มีต่อรองเท้าคู่โปรดในใจ สิ่งที่คุณต้องใส่ใจอย่างมาก คือการทดลองสวมรองเท้าทั้ง 2 ข้าง แล้วลองเดินไปเดินมา บางคนอาจสงสัยว่าเพราะอะไรกันล่ะ เพียงแค่เราชอบก็ซื้อแค่นั้นก็จบแล้ว แต่คุณรู้ไหม ว่า รองเท้าที่ดีที่สุดสำหรับคุณควรเป็นอย่างไร รองเท้าที่ดีสุด อาจจะไม่ใช่รองเท้าที่มีดีไซน์สวยและถูกใจมากที่สุด หรือราคาถูกที่สุด แต่จะต้องเป็นรองเท้าที่เมื่อใดก็ตามที่คุณสวมแล้วมันเข้ากับรูปเท้าของคุณ รู้สึกว่าใส่สบายเมื่อสวมใส่ ไม่คับหรือหลวมเกินไป นอกจากนั้น เวลาใส่แล้วยังเหลือพื้นที่บริเวณปลายนิ้วเท้า หรือแม้แต่บริเวณส้นเท้าก็ตรงกระชับพอดี ไม่หลวมหรือหลุดขณะเดินหรือวิ่ง และที่สำคัญเลย คือ คุณจะต้องเลือกซื้อรองเท้าให้เหมาะกับกิจกรรมที่คุณจะทำในวันนั้น ๆ และหากจะถามว่าเราสามารถใช้รองเท้าผ้าใบที่มีอยู่คู่เดียวนั้นสำหรับทุก ๆ กิจกรรมเลยจะได้ไหมนะ? คำตอบคือ ได้ แน่นอน! แต่การเคลื่อนไหว และ ความรู้สึกสบายเมื่อใช้งานมันก็ส่งผลในระยะยาวเช่นกัน

เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว เพื่อให้เห็นภาพ เราจะยกตัวอย่างให้คุณลองจินตนาการดูแล้วกัน เช่น วันนี้คุณจะไปทำกิจกรรมทั่ว ๆ ไป ไม่ต้องใช้รองเท้าที่มีการ support อะไรมากมาย ขอใส่สบายเป็นพอ คุณก็อาจจะเลือกรองเท้าแบบนึง แต่หากวันไหนคุณต้องใช้งานเท้าคุณอย่างหนัก การเลือกรองเท้าที่มีการ support ในจุดต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับกิจกรรมที่คุณทำ ก็จะช่วยในเรื่องความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมเหล่านั้นได้มากเลยทีเดียว วันนี้จึงอยากจะมายกตัวอย่างรองเท้าแต่ละประเภทที่เข้ากับการใช้งานอย่างถูกต้องและเหมาะสม

1. Motion Control

รองเท้าแบบนี้จะมีการเพิ่มพื้นส้นเท้าให้หนา แถมยังช่วย support เพื่อป้องกันในช่วงที่คุณทำกิจกรรมจะได้ไม่มีการหมุนของข้อเท้ามากเกินจำเป็น ซึ่งรองเท้าชนิดนี้จะเหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มจะออกกําลังกายแบบวิ่ง และมีฝ่าเท้าแบน

2.Stability

รองเท้าแบบนี้เป็นรองเท้าวิ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งจะมีโครงสร้างที่ช่วยให้การหมุนเข้าของข้อเท้าอยู่ในลักษณะท่าทางที่เหมาะสม และค่อนข้างยืดหยุ่น จึงเหมาะกับใช้ทำกิจกรรมในฟิตเนสที่ไม่ได้ใช้แรงตรงส่วนเท้ามากจนเกินไป

3.Minimal

รองเท้าลักษณะนี้ จะไม่มีการ support บริเวณช่วงโค้งของรองเท้า  อีกทั้งพื้นรองเท้าจะมีลักษณะบางและเรียบ ทําให้มีความเท่ากันระหว่างความสูงจากพื้นของปลายเท้าและส้นเท้า เวลาสวมใส่คุณอาจรู้สึกราวกับว่าไม่ได้สวมใส่เลยทีเดียว เพราะจะช่วยให้เท้าของคุณนั้น ขยับได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเป็นรองเท้าที่เหมาะกับผู้ที่มีการเปลี่ยนรูปแบบเป็นวิ่งเท้าเปล่า

                นอกจากคุณจะรู้วิธีในการเลือกรองเท้าให้เหมาะกับคุณแล้วนะ การดูแลรักษาสุขภาพเท้า ก็เป็นสิ่งที่คุณควรให้ความสำคัญเช่นกัน อย่าปล่อยปละละเลยมันเชียวล่ะ! เพราะหากคุณไม่ดูแลสุขภาพเท้าของคุณแล้ว ต่อให้คุณเลือกซื้อรองเท้าให้ตรงกับกิจกรรม หรือดี และแพง มากแค่ไหนก็ตาม ก็คงไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดกับเท้าของคุณในระยะยาวได้ ซึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณดูแลเท้าของคุณให้แข็งแรงอยู่เสมอก็คือ การออกกำลังกายเท้าและข้อเท้า นั่นเอง เนื่องจากเท้าของคุณนั้น ก็มีกล้ามเนื้อที่ไม่ได้แตกต่างไปจากแขนหรือขาของคุณเลย และถ้ายิ่งไปกว่านั้น หากคุณมีการบริหารบริเวณเท้าของคุณอย่างสม่ำเสมอละก็ สิ่งเหล่านี้ก็ยิ่งจะไปกระตุ้นให้เลือดมีการไหลเวียนลงสู่ปลายเท้า และยิ่งทำให้เท้าของคุณแข็งแรงมากยิ่งขึ้น แถมยังไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาในระยะยาวอีกด้วย รู้อย่างนี้แล้ว จะรอช้าทำไมล่ะคะ ลองปฏิบัติตามตั้งแต่วันนี้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในทุก ๆ วัน คงจะดีไม่น้อยเลย จริงไหม?