การออกกำลังกาย

ผู้ป่วยโรคหัวใจ ออกกำลังกายแบบไหนถึงจะไม่เสี่ยง

การออกกำลังกายอย่างถูกวิธีสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่างเช่น โรคหัวใจ มีความจำเป็นอย่างมากเพราะจะช่วยให้หัวใจของเราแข็งแรงขึ้น เพียงแต่ต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจจึงไม่ต้องกังวลว่าจะออกกำลังกายตามปกติไม่ได้ เรารวบรวมเทคนิคและวิธีการออกกำลังกายที่ปลอดภัยและเหมาะสมต่อสภาพร่างกายมาไว้ที่นี่แล้ว

เทคนิคการออกกำลังกายเพื่อให้หัวใจแข็งแรงขึ้น

หลายคนเข้าใจว่าเมื่อป่วยเป็นโรคหัวใจแล้วคงจะหมดสิทธิ์ออกกำลังกายไปเลย แต่ความเป็นจริงไม่ถึงขนาดนั้น เพราะคุณสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติเพียงแต่ต้องปรับวิธีการให้พอเหมาะตามคำแนะนำของแพทย์ เราจึงรวบรวมเทคนิคต่าง ๆ มาให้คนที่เป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจลองเอาไปใช้กันดู

1.ควรเลือกช่วงเวลาและสถานที่ของการออกกำลังกายให้เหมาะสม เช่น ออกกำลังกายในตอนเช้าเพราะอากาศไม่ร้อนจัด หรือเย็นจัดจนเกินไปและควรเป็นสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเท

2.ควรออกกำลังกายหลังทานอาหารมื้อหลักประมาณ 1-2 ชั่วโมงและไม่ควรออกกำลังกายตอนท้องว่าง

3.ก่อนออกกำลังกายควรทำการวอร์มอัพร่างกายอย่างน้อย 10-15 นาที เพื่อป้องกันหรือลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและข้อต่อต่าง ๆ ระหว่างการออกกำลัง

4.เตรียมน้ำดื่มไว้ข้างตัวให้พร้อม อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ ควรจิบน้ำระหว่างออกกำลังกายเบา ๆ หรือดื่มน้ำประมาณ 1 แก้วก่อนเริ่มออกกำลังกาย

5.ควรเลือกวิธีออกกำลังกายแบบเบา ๆ จนถึงแบบหนักปานกลาง แต่หากไม่เคยออกกำลังมาก่อน ควรเริ่มจากวิธีเบา ๆ เช่น การเดินเร็ว ในช่วงแรกอาจจะเริ่มเดินแค่วันละ 20-30 นาที สัปดาห์ละ 3-5 วัน จะทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยจนเกินไป หลังจากนั้นเมื่อร่างกายเริ่มคุ้นเคยก็ค่อย ๆ ปรับเพิ่มเป็นวันละ 45 นาที – 1 ชั่วโมง หรือเปลี่ยนเป็นวิ่งเหยาะ ๆ หรือปั่นจักรยานอยู่กับที่ เพื่อให้กล้ามเนื้อหัวใจสูบฉีดเร็วขึ้น

หรือเลือกการว่ายน้ำเพราะน้ำเป็นตัวช่วยพยุงน้ำหนักอย่างดี ถึงแม้จะออกแรงมาก ก็ทำให้รู้สึกเหนื่อยน้อยกว่าออกกำลังกายบนบก แถมการว่ายน้ำยังเป็นการใช้กล้ามเนื้อแทบทุกส่วนในร่างกาย และน้ำยังช่วยลดแรงกระแทกเวลาที่เราออกแรงทำให้ไม่บาดเจ็บง่าย

6.ควรหมั่นสังเกตุอาการของร่างกายในขณะออกกำลังกาย หากมีอาการหรือสัญญาณเตือนภัยต่าง ๆ ดังนี้ รู้สึกเหนื่อยมากผิดปกติ หัวใจเต้นเร็ว มีอาการแน่นหน้าอก หน้ามืดหรือเวียนหัว คลื่นไส้ ควรหยุดพักและหากเป็นไปได้ควรไปพบแพทย์ทันที แนะนำว่าไม่ควรไปออกกำลังกายคนเดียว ควรหาคนใกล้ชิดหรือเพื่อนไปด้วย เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ช่วยเหลือกันได้ทันที

ประโยชน์ที่ได้จากการออกกำลังกายของผู้เป็นโรคหัวใจ

1.การออกกำลังกายจะช่วยฟื้นฟูหัวใจให้ทำงานได้ดีขึ้น เนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจและเซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือดทำงานได้ดีจึงทำให้หลอดเลือดมีการขยายตัว กล้ามเนื้อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้มากขึ้น เพิ่มการไหลเวียนของเลือด พูดง่าย ๆ ว่าทำให้การทำงานของหัวใจเข้าสู่ภาวะปกติเร็วขึ้นนั่นเอง

2.ช่วยป้องกันโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเส้นเลือดสูง เพราะการออกกำลังกายจะทำให้คลอเรสเตอรอลในเลือดลดลง

3.ช่วยป้องกันและลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ รวมถึงโรคอื่น ๆ ลงได้ เช่น โรคอ้วน โรงมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น

4.ทำให้ร่างกายแข็งแรงไม่ใช่เฉพาะแค่หัวใจ แต่กล้ามเนื้อส่วนอื่นของร่างกายยังได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กระฉับกระเฉง ดูอ่อนกว่าวัย ผิวพรรณสดใสขึ้นเพราะการออกกำลังกายจะช่วยขับเหงื่อออกมาทางผิวหนังเป็นการช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี

นอกจากเทคนิคของการออกกำลังกายสำหรับผู้เป็นโรคหัวใจที่เรานำเสนอทั้งหมดนี้ สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นคือ การควบคุมอาหารการกิน ควรกินอาหารในสัดส่วนที่พอเหมาะ รวมถึงพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันที่จะส่งผลให้ไปกระตุ้นอาการของโรคได้ เช่น การดื่ม ชา กาแฟมากเกินไป การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นต้น ดังนั้นควรค่อย ๆ ปรับพฤติกรรมที่ไม่ดีเหล่านี้ลงและหันมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ คุณจะได้มีสุขภาพที่แข็งแรงและห่างไกลจากอาการเจ็บป่วยมากขึ้นด้วย

เล่นกีฬา ช่วยพัฒนาสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์

ถ้าหากจะพูดถึงประโยชน์ของการเล่นกีฬานั้น คงมีมากมายนับไม่ถ้วน อยู่ที่เราจะโฟกัสในด้านไหนมากที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วไม่ว่าจะเล่นกีฬาประเภทใดก็ตาม หากไม่เสี่ยงอันตรายมากจนเกินไปและทำถูกวิธี กีฬาก็ให้คุณประโยชน์กับเราแทบทั้งนั้น ในวันนี้เราจึงขอนำเสนอประโยชน์ของการเล่นกีฬาที่มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์มาให้ทุกคนได้ทราบกัน เพราะโรคอัลไซเมอร์นั้นไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่เราสามารถป้องกันได้ด้วยวิธีง่าย ๆ อย่างการเล่นกีฬา

กีฬาที่ช่วยพัฒนาสมองให้ห่างไกลจากอัลไซเมอร์

อัลไซเมอร์ หรือ ภาวะสมองเสื่อม มักจะพบมากในผู้สูงอายุ ซึ่งโรคนี้เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของเซลล์ประสาทในสมอง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีความจำแย่ลง และทำให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน บุคลิกหรืออารมณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด หากมีภาวะสมองเสื่อมไปจนถึงระยะที่รุนแรง อาจจะถึงขั้นที่ผู้ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ จำใครไม่ได้ แขนขาอ่อนแรง ลุกไม่ได้ ทำให้ต้องนอนติดเตียงและมีอาการติดเชื้อแทรกซ้อนในที่สุด

คงเป็นความทรมานใจอย่างยิ่งหากเราต้องเห็นคนใกล้ชิดเจ็บป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ รวมถึงตัวเราเองในอนาคตก็อาจจะมีความเสี่ยงกับภาวะสมองเสื่อมได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นเรายังมีโอกาสป้องกันไม่ให้เกิดโรคได้ ด้วยการดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ การเล่นกีฬาจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่ไม่ใช่เป็นการป้องกันเพียงโรคเดียว แต่ยังได้ป้องกันจากโรคอื่น ๆ และได้ประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย เรามาดูกันว่ากีฬาที่ว่านั้นคือกีฬาชนิดใด และช่วยป้องกันอัลไซเมอร์ได้จริงหรือไม่

1.กีฬาหมากรุก เป็นกีฬาที่ใช้ผู้เล่นเพียงสองคน และยังเล่นได้ทุกเพศ ทุกวัย สามารถนำมาเล่นกับคนในครอบครัวเป็นกิจกรรมที่กระชับความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี กีฬาหมากรุกเป็นกีฬาที่ใช้สมองในการคิดวางแผนการเล่นอย่างระมัดระวัง ต้องมีทั้งสมาธิ มีไหวพริบและมีความคิดเชิงกลยุทธ์ในการเดินหมากแต่ละครั้งเพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้ามให้ได้

และในการที่ต้องใช้สมองคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนนี้ จึงทำให้กีฬาหมากรุกเป็นกีฬาช่วยพัฒนาสมองชั้นเยี่ยม ช่วยฝึกสมองในเรื่องของความจำ ช่วยคลายเครียดและลดความเสี่ยงของการเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคทางสมอง แถมหามาเล่นได้ง่าย ไม่สิ้นเปลืองอีกด้วย

2. กีฬาประเภทแอโรบิก ออกกำลังเบา ๆ แบบต่อเนื่อง เช่น การเดินเร็ว การวิ่งเหยาะ ๆ รำมวยจีน โยคะ หรือแม้แต่การเต้นรำ เช่น เต้นลีลาศในจังหวะที่ไม่เร็วเกินไป เน้นการเคลื่อนไหวของประสาทสัมผัสทั้ง 5 และต้องออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 20-30 นาทีเป็นต้นไป สัปดาห์ 3-5 วัน เพียงแค่นี้ก็สามารถช่วยป้องกันและลดภาวะการเสื่อมถอยของสมองได้ดี เนื่องจากได้ฝึกการใช้ประสาทสัมผัสเป็นประจำ

3. กีฬาปิงปอง หรือ Table Tennis เป็นการช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหวทั้งส่วนบนและส่วนล่าง เป็นการทำงานประสานกันระหว่างสายตาที่คอยจับจ้องลูกปิงปอง และมือที่ต้องคอยตีลูกโต้กลับ ส่วนสมองก็คิดวางแผนตอบโต้คู่ต่อสู้ในเวลาเดียวกัน เป็นการได้ใช้สมองหลาย ๆ ส่วนพร้อม ๆ กัน ทำให้สมองมีความตื่นตัวและไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกายที่หนักจนเกินไป ผู้สูงอายุก็สามารถเล่นกีฬาปิงปองได้

การเล่นกีฬาประเภทต่าง ๆ ควรเล่นให้พอดีและเหมาะสมต่อสุขภาพร่างกายของเรา การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เรามีสุขภาพดี มีความกระฉับกระเฉง จิตใจแจ่มใส สมองปลอดโปร่งในที่สุดเราก็จะห่างไกลจากโรคอัลไซเมอร์ และโรคภัยไข้เจ็บอื่น ๆ ได้ นอกจากกีฬาแล้ว การกินอาหารที่มีประโยชน์และการพักผ่อนที่เพียงพอก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นควรหันมาดูแลตัวเองและคนใกล้ชิดตั้งแต่วันนี้จึงจะดีที่สุด

บอดี้เวทแบบคนไม่มีเวลาก็เล่นได้

เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่อยู่ในแวดวงการออกกำลังกาย คนรักสุขภาพ หรือคนที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ คงจะคุ้มหูกันดีกับคำว่า “บอดี้เวท” แล้วบอดี้เวทมันดีอย่างไร เหมาะสำหรับใครบ้าง?

บอดี้เวทคือ การออกกำลังกายอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการออกกำลังกายที่สะดวก เพียงแค่มีเวลาในการออกกำลังกาย ก็สามารถออกกำลังกายได้ทุกที่ โดยไม่ต้องพึงพาเครื่องมือหรืออุปกรณ์ในการออกกำลังกายเลยแม้แต่น้อย

การออกกำลังกายโดยบอดี้เวท จะเป็นการออกกำลังกายโดยใช้น้ำหนักตัว หรือน้ำหนักของร่างกายเราในการออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายเกิดแรงต้าน จริง ๆ แล้วการออกกำลังกายโดยการบอดี้เวท ก็เหมือนกับการที่เราไปเข้ายิมและยกแผ่นเหล็ก (เวทเทรนด์นิ่ง) นั่นแหละ เพียงแต่การออกกำลังกายโดยบอดี้เวท เราไม่สามารถบวกเพิ่มน้ำหนักในการออกกำลังกาย หรือลดน้ำหนักได้ ฉะนั้นในส่วนนี้ก็อาจจะเป็นปัญหาได้เช่นกัน

การใช้ร่างกายออกกำลังที่รู้จักกันดีเลยก็คือ การวิดพื้น, ซิทอัพ, หรือการสควอท การออกกำลังกายโดยการบอดี้เวท จริง ๆ ผู้ที่รักในการออกกำลังกายสามารถที่จะเล่นบอดี้เวทได้กันทั้งนั้น แต่เนื่องด้วยบอดี้เวท ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ในการออกกำลังกาย และไม่ต้องไปตามหาสถานที่ในการเล่น ขอแค่มีพื้นที่เล็ก ๆ นิด ๆ หน่อย ๆ ก็สามารถออกกำลังกายได้แล้ว จึงเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลามากนัก ไม่อยากเสียเวลาเดินทางในการไปออกกำลังกายที่ยิม อีกทั้งการออกกำลังกายโดยการบอดี้เวทไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย สำหรับท่านที่ไม่อยากเสียสตางค์ของท่านไปสมัครเป็นสมาชิกของคลิบในยิม ก็สามารถที่จะศึกษาวิธีการออกกำลังกายโดยการบอดี้เวท และออกกำลังกายอยู่ที่บ้าน คอนโด หรือแม้แต่ที่ทำงานได้เลย

ประโยชน์ของการออกกำลังกายโดยการบอดี้เวท การออกกำลังกายแบบนี้ถ้าหากศึกษา และทำเป็นเซ็ทอย่างต่อเนื่องแล้ว จะสามารถเบิร์นไขมันได้เป็นอย่างดี ช่วยให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แต่จริง ๆ การบอดี้เวทก็มีข้อเสียสำหรับบางคนเหมือนกัน อาทิเช่น คนที่ไม่สามารถออกกำลังกายได้ด้วยกายใช้น้ำหนักตัวเอง อาจจะเป็นคนที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไปหรือน้อยจนเกินไป จึงไม่สามารถใช้กำลังของตัวเองยกน้ำหนักตัวเองได้ สำหรับคนที่ไม่สามารถออกกำลังกายโดยการบอดี้เวท การไปเข้ายิมออกกำลังกายโดยใช้ตัวช่วยอย่างการเวทเทรนด์นิ่งก็อาจจะเป็นอะไรที่เหมาะสมกว่า เพราะสามารถปรับลดน้ำหนัก หรือเพิ่มน้ำหนักเพื่อช่วยในการออกกำลังกายได้

การออกกำลังกายโดยการบอดี้เวทก็สามารถเสริมสร้างร่างกายของเราให้แข็งแรงได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเวลามากเลย ขอแค่คุณรักในการออกกำลังกายไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนหรือมีเวลาน้อยเพียงใดก็สามารถที่จะออกกำลังกายได้

ทำไมเวทเทรนนิ่งถึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

เมื่อก่อนนี้การออกกำลังกายประเภทเวทเทรนนิ่งถูกมองว่าเป็นกีฬาเฉพาะกลุ่มของผู้เป็นนักกีฬาเท่านั้น จึงทำให้ยังไม่มีกลุ่มคนนิยมออกกำลังกายโดยกายเวทเทรนนิ่งมากนัก แต่ปัจจุบันเทรนด์การออกกำลังกายในยิม การเล่นเวท เพื่อที่จะฟิตหุ้น ฟิตรูปร่างของตัวเองให้ดูดี และเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำไมการออกกำลังกายประเภทนี้ถึงได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเพศหญิง เพศชาย หรือแม้แต่เพศอื่น ๆ ก็ตาม

เวทเทรนนิ่งคือการออกกำลังกายโดยใช้ทั้งบอดี้ของร่างกายเรา หรือใช้อุปกรณ์ถ่วงน้ำหนักต่าง ๆ อย่างเช่น ดัมเบล, บาร์เบล เพื่อให้กล้ามเนื้อเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งเกิดแรงต้าน หรือได้ใช้แรงของกล้ามเนื้อส่วนนั้น ๆ ในการทำงานมากขึ้น การเล่นเวทเทรนนิ่งอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ร่างกายมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

การดูแลสุขภาพไม่ว่าจะเป็นการดูแลตั้งแต่ภายในแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันยังให้ความสำคัญถึงบุคลิกภาพภายนอกอีกด้วย แน่นอนว่าการออกกำลังกายโดยการเวทเทรนนิ่งทำให้เกิดมวลกล้ามเนื้อ อย่างคุณผู้ชายเวลาใส่เสื้อผ้าก็จะดูฟิตเฟิร์มมากขึ้น ในส่วนของคุณผู้หญิงเองก็อยากจะมีหุ้นที่ผอมบางสวยงาม หรือเรียกว่าอยากมีบุคลิกที่ดี เสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง เมื่อมีบุคลิกที่ดีมีความมั่นใจ ก็จะส่งผลให้การดำเนินชีวิต การทำงานต่าง ๆ ดีขึ้นตามมาอีกด้วย

สุขภาพร่างกายที่แข็งแกร่งมากขึ้น เชื่อว่าหลายคนที่ชอบออกกำลังกาย หรือไม่ชอบก็ตามแต่ ทุกคนออกกำลังกายเพื่อที่อยากจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และมีสุขภาพที่ดีกันทั้งนั้น การออกกำลังกายโดยการเวทเทรนนิ่ง จะช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อและทำให้ร่างการแข็งแรงมากขึ้น นอกจากจะทำให้มีบุคลิกที่ดีแล้วยังทำให้มีสุขภาพร่างกายที่ดีอีกด้วย

การส่งต่อแรงบรรดาลใจ เวทเทรนนิ่งเปลี่ยนหุ่นให้ดีขึ้น การที่เวทเทรนนิ่งได้รับความนิยมมากขึ้น เชื่อว่าเป็นเพราะผู้คนในปัจจุบันอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง จะเห็นได้จากคนที่มีรูปร่างอ้วนท้วมก็อยากจะมีรูปร่างที่ดี หรือแม้แต่คนที่ผอมเกินไปก็ตามก็อยากจะเปลี่ยนหุ่นของตัวเองที่ผอมแห้งให้มีความสมดุล มีร่างกายที่สมส่วนมากขึ้น และเมื่อมีคนที่ทำได้ สื่อโซเซียลมีเดียในยุคนี้ทำให้การส่งต่อแรงบรรดาลใจทำได้ง่ายมากขึ้น คุณลองคิดดูนะครับว่าถ้าหากมีคนที่น้ำหนักมาก ๆ อ้วนท้วมมาก่อน กลับกลายมาเป็นคนที่มีรูปร่างที่ดี และสุขภาพที่ดี ทำให้คนที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองลุกขึ้นมาออกกำลังกายโดยการเวทเทรนนิ่งมากยิ่งขึ้น เพราะรู้สึกว่าคนอื่นทำได้เราก็ทำได้เช่นกัน

ดังนั้นการเล่นเวทเทรนนิ่งจึงได้รับความนิยมมากขึ้น และยังคงจะได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่อ้วนท้วม ผอมแห้ง ร่างกายไม่สมส่วน คุณก็สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ฟิตเนสกับ 5 ความเชื่อที่คุณได้ยินมา อาจไม่ใช่ความจริง

ปัจจุบันต้องบอกว่า เทรนด์รักสุขภาพนั้นมาแรงมากจริง ๆ ยิ่งในปัจจุบันนี้ ผู้คนทั้งชายและหญิงต่างก็เริ่มหันมาให้ความสนใจดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายกันมากยิ่งขึ้น เพราะทุกคนต่างก็อยากมีสุขภาพที่ดีและมีรูปร่างที่ฟิตเฟิร์มกันทั้งนั้น ฟิตเนสจึงเป็นหนึ่งในสถานที่หลักที่ผู้คนมากมายใช้เวลาไปกับสถานที่แห่งนี้ โดยเฉลี่ยครั้งละ 1 – 2 ชั่วโมง

ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังมีความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับฟิตเนสอยู่ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็นความเชื่อหลัก ๆ 5 ประการ นั่นคือ               

1. กล้ามเนื้อจะแปรสภาพเป็นไขมัน เมื่อคุณหยุดออกกำลังกาย

                จริงอยู่ที่เมื่อคุณเบิร์นไขมันอย่างสม่ำเสมอจะเป็นการสร้างกล้ามเนื้อ แต่ไม่ได้หมายถึงว่า เมื่อคุณหยุดกล้ามเนื้อจะเปลี่ยนเป็นไขมัน เพราะมันคือคนละส่วนกันอย่างชัดเจน และความจริงที่ยิ่งกว่านั้นคือ เมื่อคุณกินเท่าเดิม แต่ไม่ออกกำลังกาย ไขมันที่คุณมีจะค่อย ๆ มากขึ้น และกล้ามเนื้อจะค่อย ๆ ลดลงต่างหาก

2. เบิร์นเสร็จแล้ว กินอะไรต่อ มากแค่ไหนก็ได้ 

                บางคนอยากกินนั่น อยากกินนี่ แต่กลัวอ้วน จึงคิดว่ารีบ ๆ ออกกำลังกายให้เสร็จ แล้วหลังจากนั้นจะกินอะไรก็ได้ นับว่าเป็นความเชื่อที่ผิด ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ออกกำลังแล้วคุณจะกินอะไรไม่ได้ คำตอบคือ คุณสามารถกินได้ แต่จะต้องเลือกกิน และต้องกินในปริมาณที่เหมาะสม

3. ที่ทำมาทั้งหมดเสียเวลาเปล่า ถ้าไม่คิดจะออกกำลังกายเป็นประจำ

                แม้ว่าการออกกำลังกายจะช่วยเผาผลาญไขมันคุณ ทำให้คุณมีรูปร่างที่ดีขึ้น แต่การออกกำลังกายไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง คุณอย่าได้คิดว่าออกกำลังแล้ว ปัญหาสุขภาพที่คุณมีมาจะหายเป็นปลิดทิ้ง เพราะจริง ๆ แล้ว โรคต่าง ๆ จะรักษาได้ จริงอยู่ว่ามีการออกกำลังเป็นส่วนประกอบ แต่ต้องควบคู่กับการดูแลตัวเอง การทานยา การปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์ และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึง บางคนที่เน้นออกกำลังกายบ่อย ๆ และช่วงระยะเวลาหนึ่งที่อาจจะมีเหตุให้หยุดไป ที่ผ่านมาทั้งหมดคือต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่แน่ ๆ เสียเวลาเปล่า แต่แท้จริงแล้ว การออกกำลังกายเป็นประจำ แม้จะในช่วงระยะเวลาหนึ่ง กลับช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค และเผาผลาญแคลอรี่ได้ดีเลยทีเดียว และหากคุณอยากจะกลับมาทำต่อ แม้จะหยุดไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง แม้จะไม่ได้เผาผลาญมากเท่าเดิม แต่ที่เคยทำมาก็ไม่สูญเปล่า และคุณยังสามารถทำต่อได้ และค่อย ๆ กลับมาเห็นผลได้ดังเดิมอย่างแน่นอน

4. ยกเวท ยกน้ำหนัก ส่งผลให้คุณล่ำขึ้น

                ผู้หญิงจำนวนมากพยายามเลี่ยงเวท เพราะเข้าใจว่า จะหุ่นล่ำ หุ่นใหญ่ เหมือนพวกนักเพาะกล้าม แต่จริง ๆ แล้วการยกเวท เป็นการช่วยให้มวลกล้ามเนื้อของคุณได้ทำงาน ส่งผลให้มีการเผาผลาญที่ดีขึ้น และการยกน้ำหนัก บอกเลยว่า เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ในการลดไขมันร่างกาย แล้วไปเพิ่มการสร้างกล้ามเนื้อที่แข็งแรงแทนต่างหาก

5. ออกกำลังกาย ยิ่งมาก ก็ยิ่งดี

                บางคนได้ยินมาว่า ยิ่งคุณออกกำลังกายมาก ๆ ระยะเวลานาน ๆ ในแต่ละครั้งนั้นดี ผอมเร็ว รูปร่างได้สัดส่วนเร็ว จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยระยะเวลาที่พอดีต่อร่างกายต่างหากที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่การหักโหมออกกำลังกาย ล้วนแต่จะนำมาซึ่งอาการเจ็บป่วย และโรคซึมเศร้า เพราะไม่มีความสมดุลนั่นเอง

                การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีต่อคนทุกเพศ ทุกวัย แต่การเข้าใจถึงข้อเท็จจริงในการออกกำลังกาย ไม่อินไปกับความเชื่อผิด ๆ จะช่วยส่งเสริมให้คุณเข้าใจผลที่ได้จากการออกกำลังกายมากขึ้น และนำไปปรับใช้ได้อย่างถูกวิธี

5 เวย์โปรตีน ยอดฮิต ปลอดภัย เหมาะสำหรับคนชอบเข้าฟิตเนส

คนจำนวนไม่น้อยที่มีไลฟ์สไตล์ที่เน้นเข้าฟิตเนสออกกำลังกาย เพื่อเผาผลาญแคลอรี่ เฟิร์มรูปร่างให้มีรูปร่างที่ดี สมส่วน แต่ในบรรดาวิธีการออกกำลังกายในฟิตเนสแล้ว ยังมีอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับผู้ที่คำนึงเป็นหลักในเรื่องของโภชนาการทางอาหาร และเน้นสำหรับคนที่ต้องการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และคงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เวย์โปรตีนถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยชั้นดี ที่ช่วยสร้างกรดอะมิโนและสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งการเลือกเวย์โปรตีนที่เหมาะสมกับตัวคุณนั้น ต้องดูว่าปริมาณโปรตีนที่เหมาะสมจะต้องไม่ควรต่ำกว่า 25 กรัม/หน่วย และยังต้องมี ​BCCA ที่มีกรดอะมิโนตัวหลักทั้งหมดสามตัว เพื่อช่วยสร้างกล้ามเนื้อ วันนี้จึงมีเวย์โปรตีน 5 ยี่ห้อ ที่เหมาะสมกับคนที่ชอบเข้าฟิตเนส มาแนะนำ

1. Muscle Pharm Combat (100% Isolate)

                ตัวนี้มีจุดเด่นอยู่ที่มีโปรตีน isolate 100% และมีคาร์โบไฮเดรต 0% ซึ่งก็เท่ากับว่ามีปริมาณโปรตีนสูงถึง 24 กรัม ทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง แม้ตัวนี้จะมีราคาที่สูงหน่อย (ประมาณ 3100 บาท) แต่หากเปรียบเทียบกับคุณภาพแล้ว อาจกล่าวได้ว่าคุณภาพเกินราคาอย่างแน่นอน

2. Mutant Whey

                5-Stage Anabolic เป็นจุดขายหลักของยี่ห้อนี้ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้อย่างรวดเร็ว และมาในรูปแบบใหม่ของ Nitroserum™ ที่มีโปรตีนที่มีความเข้มข้นสูง รวมถึงความบริสุทธ์ที่ใส่มาอย่างครบถ้วน และยังรักษาคุณค่าไว้ได้อย่างดีเลยทีเดียว นอกจากนั้นเวย์โปรตีนตัวนี้ยังดูดซึมได้ง่าย ราคาก็เอื้อมถึง จึงไม่แปลกที่ยี่ห้อนี้จะเป็นหนึ่งในเวย์โปรตีนยอดฮิตของใครต่อใคร

3. Optimum Hydro Whey 3.5 lbs

                เวย์โปรตีนตัวนี้มีมาตรฐานทางด้านกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพจากเทคโนโลยีตัวล่าสุดจากประเทศอเมริกา และมี BCAA สูง ช่วยย่อยและดูดซึมอย่างรวดเร็ว และยังมีไขมันและน้ำตาลต่ำ แต่มี Peptide คุณภาพสูง จึงช่วยเสริมสร้างและฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี

4. Whey Protein Isolate (WPI)

                เวย์โปรตีนตัวนี้จะมีราคาแพงกว่าเวย์โปรตีนแบบ WPC  ด้วยการสกัดคาร์โบไฮเดรตและไขมันออกไป อีกทั้งยังมีปริมาณโปรตีนสูงถึง 90% และไขมันต่ำ เหมาะกับคนที่แพ้นมวัวและท้องเสียบ่อย ๆ


5. Amino 3333

                เวย์โปรตีนตัวนี้มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายทั้งหมด 9 ชนิด ซึ่งมีส่วนช่วยในการสังเคราะห์โปรตีนได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มระดับการไหลเวียนของฮอร์โมนอีกด้วย จึงส่งผลให้กล้ามเนื้อของคุณแข็งแรงและไวต่อการฟื้นตัว

                ดังนั้นจึงหวังว่าคำแนะนำนี้จะเป็นประโยชน์และเป็นแนวทางให้กับคนที่ชอบเข้าฟิตเนส และในขณะเดียวกันก็เน้นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อของตัวเอง ซึ่งในการเลือกซื้อเวย์ที่เหมาะสมกับตัวคุณเอง สิ่งที่คุณจะต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมากในการเลือกซื้อเวย์โปรตีนสักตัว คงจะหนีไม่พ้นการพิจารณาถึงความต้องการที่แท้จริงว่าคุณจะซื้อเวย์โปรตีนตัวนั้นไปเพื่อจุดประสงค์ใด บางคนเน้นสร้างกล้ามเนื้อ ในขณะที่คนอีกกลุ่มอาจคัดเลือกเวย์โปรตีนที่เหมาะสมสำหรับเวทเทรนนิ่ง หรือเพื่อควบคุมน้ำหนัก รวมถึงการคำนึงถึงความปลอดภัย และราคาที่เหมาะสมและคุณสามารถซื้อได้แบบไม่กระเทือนกับงบประมาณที่คุณมี